“ที่นี่ไม่ได้มีที่เที่ยวสวยๆให้ดูกัน ทำไมถึงมาเที่ยวที่นี่กันล่ะ” เสียงของแม่ๆในชุมชนดังขึ้น หลังจากที่ได้ต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่นด้วยดอกกุหลาบพับจากใบเตย ในชุดผ้าย้อมครามทอลายพื้นเมืองที่สวยงามพร้อมใบหน้าที่อาบรอยยิ้ม ชวนให้เราได้ยิ้มตาม และอดคิดไม่ได้เลยว่า ความรู้สึกแรกที่ได้เข้ามาสัมผัสชุมชนแห่งนี้ คือสิ่งที่เรียกว่า “ความเรียบง่าย” หากอยากรู้ว่า “ความเรียบง่าย” ของชุมชนวัฒนธรรมไทญ้อบ้านโพน จังหวัดนครพนม หน้าตาเป็นอย่างไร ตามมาดูกิจกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนแห่งนี้ไปพร้อมๆ กันกับเราได้เลย
ชุมชนวัฒนธรรมไทญ้อบ้านโพน จังหวัดนครพนม เป็นชุมชนที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอย่างยาวนาน สันนิษฐานกันว่า กลุ่มชาติพันธุ์ไทญ้อ ได้อพยพมาจากเมืองคำเกิด สปป.ลาว ในช่วงเหตุการณ์ศึกเจ้าอนุวงศ์ สมัยรัชกาลที่ 3 โดยได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำสงครามและแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การอยู่อาศัยและการทำอาชีพด้านการเกษตร
กิจกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนวัฒนธรรมไทญ้อบ้านโพน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม
1. ต้อนรับด้วยรักจากชาวไทญ้อบ้านโพน พาเดินเลาะชุมชน
2. ไหว้พระบางไม้ ณ วัดคามวาสี ศูนย์รวมจิตใจของชาวไทญ้อ
3. ชม “ฮางฮดใหญ่” ประติมากรรมแกะสลักไม้รูปพญานาค
4. เรียนรู้วิถีการอยู่กินแบบโบราณที่ “เฮือนไทญ้อ”
5. ชมสาธิตการทอเสื่อกก พร้อมทดลองทอเสื่อกก
6. เยี่ยมชมกลุ่มผ้าทอย้อมสีธรรมชาติจากเปลือกไม้มงคล
7. เรียนรู้งานจักสานไม้ไผ่ ชมผลิตภัณฑ์จากชุมชน
8. เข้าครัวทำเมนู “หมกเจาะ” ทานสำรับเที่ยงแบบชาวไทญ้อ
* นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบกิจกรรมที่เหมาะสมในแต่ละช่วง และติดต่อชุมชนล่วงหน้า เพื่อให้ทางชุมชนได้เตรียมความพร้อมในแต่ละกิจกรรมได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์
1. ต้อนรับด้วยรักจากชาวไทญ้อบ้านโพน พาเดินเลาะชุมชน
เพียง 8 กิโลเมตร จากอำเภอท่าอุเทน ลัดเลาะจากฝั่งแม่น้ำโขงเข้ามาในเขตไร่นาสีเขียว เราก็ได้เดินทางถึงชุมชนวัฒนธรรมไทญ้อบ้านโพน โดยได้นัดพบกับ “พี่สมจิต” ผู้นำกิจกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนในครั้งนี้ ที่ศาลาเอนกประสงค์อีสานเขียวกลางหมู่บ้าน พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยดอกกุหลาบพับจากใบเตยหอมชื่นใจ ที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวหลายๆ คน ก่อนที่จะได้พาเราไปเดินเลาะ เข้าไปในชุมชน ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนกับการที่ “เพื่อน” ชวนเรามาเที่ยวบ้านต่างจังหวัด ชวนไปดูของดีของเด่นในบ้าน อย่างไรอย่างนั้นเลย
2. ไหว้พระบางไม้ ณ วัดคามวาสี ศูนย์รวมจิตใจของชาวไทญ้อ
เริ่มต้นสิ่งดีดีในการท่องเที่ยวโดยชุมชนด้วยการเข้าวัด ไปกราบไหว้ “พระบางไม้” ที่วัดคามวาสี ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ของชาวไทญ้อบ้านโพน ที่สร้างมาจากไม้โบราณทั้งหลัง ภายในวัดมีการประดิษฐานพระพุทธรูปแกะสลักไม้โบราณอายุกว่า 200 ปี ที่มีความวิจิตรงดงาม ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทญ้อบ้านโพน ซึ่งจะมีคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านแวะเวียนเข้ามา ถือตะกร้าสานพร้อมดอกไม้ ขึ้นมากราบไหว้พระบางไม้ พร้อมแต่งกายด้วยผ้าพาดไหล่แบบชาวไทญ้อ เป็นภาพที่สัมผัสได้ถึงความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาของคนในชุมชนอย่างแท้จริง
3. ชม “ฮางฮดใหญ่” ประติมากรรมแกะสลักไม้รูปพญานาค
อีกหนึ่งจุดในวัดคามวาสีที่ไม่ควรพลาดที่จะไปชมเลยก็คือ “ฮางฮดใหญ่” เป็นหนึ่งในส่วนประกอบพิธีเถราภิเษก (พิธีฮดสรง) หรือการสรงน้ำพระพุทธรูป โดยฮางฮดใหญ่จะสร้างจากไม้เนื้อแข็งแกะสลักเป็นรูปพญานาคที่มีความละเอียดงดงาม ซึ่งการแกะสลักเป็นรูปพญานาคนั้น สะท้อนตามความเชื่อทางพระพุทธศาสนา และคนในท้องถิ่นที่เชื่อกันว่าพญานาคเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่จริง
4. เรียนรู้วิถีการอยู่กินแบบโบราณที่ “เฮือนไทญ้อ”
ตรงข้ามลานวัฒนธรรมของวัดคามวาสี มีเฮือนชาวไทญ้อหลังใหญ่ตั้งโดดเด่น ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมสภาพการอยู่กินของบ้านเรือนจำลองในอดีต พร้อมกับการเล่าเรื่องของพี่สมจิตที่ทำให้เราได้สัมผัสและเห็นภาพการใช้ชีวิตของผู้คนในอดีตได้อย่างชัดเจน โดยตัวเรือนจะมีลักษณะคล้ายกับบ้านเรือนของชาวไทยลาวทั่วไป คือ ตัวเรือนเป็นเรือนใต้ถุนสูง ทำด้วยไม้ มีชานบ้านขนาดใหญ่ แยกสัดส่วนของห้องนอนกับห้องครัวไว้อย่างชัดเจน
5. ชมสาธิตการทอเสื่อกก พร้อมทดลองทอเสื่อกก
ออกจากวัดคามวาสี พี่สมจิตก็พาเราเดินเข้าไปในชุมชน ระหว่างทางก็เล่าเรื่องชุมชนพร้อมทักทายชาวบ้านอย่างมีไมตรีจิต เดินจนมาถึงคุ้มที่ 11 ทุ่งพัฒนา กับฐานกิจกรรมแรกที่เราจะได้เรียนรู้และลองทำกันจริงๆ เลยก็คือ การทอเสื่อกกบ้านโพน โดยเสื่อกกที่บ้านโพนจะมีสีสันลวดลายที่สวยงามแตกต่างกันออกไปหลายลาย บางลายขายดีจนไม่มีของจริงให้ดู เพราะชาวบ้านทอไม่ทัน แถมยังมีคำพูดติดหูเป็นสโลแกนที่ว่า “นอนดีลูกดก ต้องนอนเสื่อกกบ้านโพน” ให้นักท่องเที่ยวได้จดจำและนึกถึงเสื่อกกบ้านโพนตลอดไป
6. เยี่ยมชมกลุ่มผ้าทอย้อมสีธรรมชาติจากเปลือกไม้มงคล
มาถึงชุมชนไทญ้อบ้านโพนทั้งที ต้องมาลองสวมใส่ชุดผ้าทอย้อมครามพื้นเมืองถ่ายรูปเก๋ๆ ไว้เป็นที่ระลึก พร้อมทั้งได้เรียนรู้กรรมวิธีการทอผ้ากับชาวไทญ้อบ้านโพนตั้งแต่กรรมวิธีเริ่มต้นจนออกมาเป็นผ้าทอสวยๆให้เราได้เลือกซื้อกัน นอกจากนี้เรายังได้ทดลองย้อมเส้นไหมด้วยสีจากเปลือกไม้มงคลที่นำมาต้ม เช่น สีครั่ง สีฝาง สีคราม ซึ่งเป็นสินค้าของฝากของที่ระลึกที่โดดเด่นของชุมชนไทญ้อบ้านโพน
7. เรียนรู้งานจักสานไม้ไผ่ ชมผลิตภัณฑ์จากชุมชน
กิจกรรมการเรียนรู้การท่องเที่ยวโดยชุมชนยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะชุมชนไทญ้อบ้านโพน ยังมีงานจักสานไม้ไผ่ให้เราได้ชมกัน โดยชาวบ้านที่ว่างเว้นจากช่วงการทำนา จะมารวมตัวกันในคุ้มประจำหมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านที่นี่ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์จักสานไม้ไผ่ออกมาได้อย่างหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น กระติ๊บข้าวเหนียวทั้งขนาดจริงและจำลอง กระเป๋าสาน หมวกสาน เป็นต้น
8. เข้าครัวทำเมนู “หมกเจาะ” ทานสำรับเที่ยงแบบชาวไทญ้อ
มาถึงไฮไลท์สำคัญกับการรับประทานสำรับอาหารเที่ยงแบบชาวไทญ้อบ้านโพน โดยนักท่องเที่ยวจะได้ทานอาหารพื้นบ้านจากคนในชุมชนจริงๆ พร้อมเรียนรู้วิธีการทำกันแบบตัวต่อตัว ซึ่งมีความหลากหลายของเมนูตามฤดูกาล สำหรับอาหารที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ “หมกเจาะ” เมนูพื้นบ้านของชาวไทญ้อ มีกรรมวิธีการทำคือ การนำเนื้อปลากรายขูดมาตำรวมกับพริก หัวหอม น้ำปลาร้า น้ำปลา คลุกเคล้าส่วนผสมกับยอดสมุนไพรนานาชนิด ยัดเข้าไปในใบชะพลูม้วนและห่อใบม้วนอีก 1 ครั้ง จากนั้นนำไปนึ่งให้เนื้อสุกประมาณ 10 นาที รับประทานกับข้าวเหนียวร้อนๆ คู่กับน้ำพริกปลาร้าฟูพร้อมผักสดๆ อร่อยเข้ากันจนนักท่องเที่ยวหลายคนติดใจในเมนูนี้ หากใครสนใจก็สามารถไปลองทำกันเองได้ที่บ้าน ไม่มีการหวงสูตรแต่อย่างใด
แหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยง (ระยะห่างจากชุมชน)
พระธาตุโนนตาล
(2.9 กม.)
พระธาตุท่าอุเทน
(8.5 กม.)
พิกัดการเดินทางไปยังชุมชน
การเดินทาง
ติดต่อผู้ประสานงานการท่องเที่ยวโดยชุมชน และที่พักโฮมสเตย์ได้ที่